บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัดต้นแบบองค์กรแห่งความสุข สู่กรณีศึกษาการจ้างงานพนักงานสูงอายุ

บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัดต้นแบบองค์กรแห่งความสุข

สู่กรณีศึกษาการจ้างงานพนักงานสูงอายุ”

 

           บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด เป็นองค์กรแห่งความสุขต้นแบบที่ได้รับการยอมรับและกำลังได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้องค์กรแห่งความสุข ให้แก่องค์กรต่างๆ ที่สนใจศึกษาดูงาน    ซึ่งการจ้างงานของผู้สูงอายุของบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัดเป็นการจ้างงานบนพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว ซึ่งเกิดจากความผูกพันหรือความเอื้ออาทรต่อกันระหว่างผู้บริหารกับพนักงานผู้สูงอายุและนอกจากการจ้างพนักงานสูงอายุที่ยังไม่พร้อมเกษียณอายุแล้ว องค์กรก็เริ่มส่งเสริมให้พนักงานวางแผนเกษียณอายุอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ของฝ่ายบุคคลทีรับผิดชอบเรื่องการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการวางแผนชีวิตของพนักงาน

บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด เปิดทำการมาแล้ว 41 ปี ปัจจุบันมีพนักงาน 926 คน พนักงานมีอายุเฉลี่ย 35 ปี ซึ่งถ้าแบ่งพนักงานตามช่วงวัย จะพบว่า พนักงาน Generation X ซึ่งเกิดระหว่าง พ.ศ. 2508 – 2522 หรือมีอายุ 36 – 50 ปี และพนักงาน GenerationY ที่เกิดระหว่าง พ.ศ. 2523 – 2533 หรือมีอายุ 25 – 35ปี อย่างละ 37% โดยพนักงาน Generation X ส่วนใหญ่ทำงานกับบริษัทมา 15ปีแล้วส่วนฐานเงินเดือนเฉลี่ยของที่นี่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. พนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงานมีรายได้เฉลี่ย 18,400 บาทต่อเดือน 2. พนักงานสนับสนุนระดับหัวหน้างานขึ้นไปจะได้รับค่าตอบแทน 380 บาทต่อวัน และ 3. พนักงานที่ปฏิบัติงานในสายการผลิตจะได้รับค่าตอบแทน 340 บาทต่อวัน

d

ทศพล ตันติวงษ์ประธานกรรมการบริหารบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัดกล่าวว่า  องค์กรเราดูแลกันแบบคนรุ่นเก่าคือการอยู่ร่วมกันจนเกษียณอายุ ถ้ายังไหวก็จ้างต่อ และทำให้บุคลากรมีความตั้งใจในการทำงาน เราทำธุรกิจบนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน    ตัวอย่างในการจ้างงานผู้สูงอายุของบริษัทเราเช่น บริษัทจ้างพนักงานอายุ 67 ปีเพื่อเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยและดูแลต้นไม้ อีกคนจ้างเพื่อเป็นพนักงานขับรถให้คุณแม่ของผู้บริหารโดยทำหน้าที่พาคุณแม่ไปตลาดและไปวัดทุกวันศุกร์และเสาร์  พนักงานสูงอายุบางคนเราให้ทำงานอาทิตย์ล่ะ 2 วัน เพื่อให้เขามีรายได้ เพราะลูกหลานเขาแยกไปมีครอบครัวหมด พนักงานอยู่คนเดียว อย่างน้อยการกลับมาที่ทำงานยังทำให้พนักงานได้พบเพื่อนๆ  ไม่เหงา

พนักงานสูงอายุท่านหนึ่งต้องไปหาหมอทุกวันอังคาร บริษัทจึงให้พนักงานมาทำงานในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ซึ่งเราเชื่อว่าอย่างน้อยพนักงานสูงอายุท่านนี้ก็มีประสบการณ์ที่จะให้คำปรึกษาแก่น้องๆ ในแผนกได้ และเป็นการเอื้อให้ลูกหลานได้ดูแลเขาได้ด้วย  นอกจากยังมีกรณีที่ลุงเกษียณอายุแล้วอยู่บ้านคนเดียว ซึ่งในบริษัทมีพนักงานที่นามสกุลเดียวกับลุงคนนี้ เป็นห่วงลุงมากเพราะกลัวว่าจะหกล้ม ก่อนเกษียณพนักงานก็คอยดูแลด้วยการจัดหาอาหารมาให้เสมอ บริษัทจึงเสนอให้พนักงานกลับมาทำงานเหมือนเดิม เพื่อให้หลานได้ดูแลพนักงานสะดวกมากขึ้น

ขณะที่คุณลุงมีอายุ 73 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในพนักงานสูงอายุของบริษัทบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมทำงานในบริษัทให้เราฟังว่า   “ลุงทำงานกับบริษัทตั้งแต่อายุ 20 ปีจนปัจจุบันมีอายุงาน 53 ปีแล้ว แต่ก่อนลุงทำงานเป็นหัวหน้าลานที่คอยดูแลการตากมันสำปะหลัง จนอายุ 40 ปีกว่าๆ จึงได้ย้ายไปทำงานในสำนักงานโดยรับผิดชอบเก็บงานและเช็คจากลูกค้าจากนั้นจึงทำหน้าที่ขับรถสวัสดิการรับส่งลูกของพนักงาน  ซึ่งตอนนี้ลุงไม่ได้ขับรถแล้วทำหน้าที่แค่ดูแลความเรียบร้อยภายในและความสะอาดของรถเท่านั้น

ลุงมีบอกเล่าให้เราฟังเพิ่มเติมอีกว่าตลอดการทำงาน 53 ปีลุงประทับใจการดูแลพนักงาน สวัสดิการ ความใจดีของผู้บริหาร และภูมิใจที่ตนเองสามารถดูแลครอบครัวได้ สามารถส่งลูกทั้ง 3 คนเรียนจนจบ นอกจากนี้ยังประทับใจที่บริษัทเห็นคุณค่า

“บริษัทนี้ดี ดูแลเป็นอย่างดี เงินทองไม่มีใช้จ่ายก็ยืมได้ เขาดีทุกอย่าง การดูแลคน สวัสดิการก็ดี  เรื่องสวัสดิการเมื่อก่อนอยู่ที่นี้ กิน นอน น้ำ ไฟ ฟรีทุกอย่าง มาช่วงหลังจึงเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ก่อนเจ็บไข้ได้ป่วยก็รักษาฟรี เพราะยังไม่มีประกันสังคม แต่ช่วงหลังมีประกันสังคมก็ใช้สิทธิประกันสังคมตามระเบียบ ท่านประธานใจดี ลูกๆ ของท่านก็ใจดี ผู้บริหารก็ดีทุกคน เพราะแบบนี้ผมถึงอยู่ได้”ลุงมีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

b

        ทั้งนี้ บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด ได้มีรูปแบบของการเตรียมพนักงานเกษียณอายุไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีการดำเนินการใน 3 รูปแบบได้แก่  1.การส่งเสริมให้พนักงานมีความมั่นคงด้านสุขภาพโดยมี อุปกรณ์ความปลอดภัย ตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสังคม ห้องพยาบาลที่มีแพทย์และพยาบาลอยู่ประจำ เป็นต้น นอกจากนี้แล้วฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทจะมีพนักงานที่รับผิดชอบวิเคราะห์ใบลาและใบรับรองแพทย์ของพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานที่สูงอายุ เมื่อพบว่าพนักงานมีปัญหาเรื่องสุขภาพก็จะเข้าไปดูแล      2. การส่งเสริมให้พนักงานมีความมั่นคงด้านการเงินโดยบริษัทได้จัดให้มีโครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและการอบรมเพื่อส่งเสริมให้พนักงานออมเงิน และจัดสวัสดิการร้านค้าและสวัสดิการเงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อป้องกันการกู้ยืมเงินนอกระบบของพนักงานที่จะพบเห็นได้บ่อยครั้ง  นอกจากนี้บริษัทยังมีสวัสดิการที่นอกเหนือกฎหมายกำหนด เช่น บ้านพักพนักงาน รถรับส่งพนักงาน รถรับส่งบุตรพนักงาน ทุนการศึกษาของบุตรพนักงาน สวัสดิการเงินกู้ยืม ของขวัญสำหรับบุตรพนักงานแรกเกิด เงินช่วยเหลือต่างๆ โครงการฌาปนกิจโครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น    และในรูปแบบสุดท้ายคือข้อ 3. การเตรียมความพร้อมของพนักงานก่อนเกษียณอายุ บริษัทกำหนดให้พนักงานเกษียณอายุ 60 ปี พนักงานที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปจะได้รับการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมหลังเกษียณอายุ รวมถึงการวางแผนการเงิน การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ (พนักงานที่มีอายุ 45 ปียังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะวางแผนการเกษียณอายุ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริหารงานบุคคล 1 คนที่ทำหน้าที่ในการพัฒนา ให้คำปรึกษาและส่งเสริมการวางแผนชีวิตของพนักงานสูงอายุอีกด้วย

c

การจ้างงานผู้สูงอายุของบริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัดหมายถึงการจ้างพนักงานหลังเกษียณอายุ หรือการจ้างงานพนักงานที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เกิดจากทั้งความตั้งใจของผู้บริหาร และความต้องการขององค์กร กล่าวคือผู้บริหารมีนโยบายที่จะจ้างพนักงานหลังเกษียณอายุอยู่แล้ว แต่ก็มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานเตรียมความพร้อมหลังเกษียณอายุ สำหรับพนักงานเมื่อถึงวัยเกษียณอายุจะได้รับการพิจารณาจากบริษัทว่า ควรทำงานต่อหรือไม่ โดยเกณฑ์หลักที่ใช้พิจารณาคือ ความมั่นคงทางการเงิน และบุคคลที่จะดูแลพนักงาน

ถ้าบริษัทพบว่าพนักงานยังไม่มีความพร้อมที่จะเกษียณอายุก็จะจ้างพนักงานต่อ โดยรูปแบบของการจ้างคือ การให้ความช่วยเหลือพนักงานให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น การยืดหยุ่นให้พนักงานมาทำงานเป็นบางวันได้ เพราะบางวันพนักงานอาจต้องไปพบแพทย์  หรือการจ้างเพื่อให้พนักงานมาเป็นพี่เลี้ยงค่อยให้คำแนะนำแก่น้องๆ ในหน่วยงาน การจ้างงานในลักษณะนี้ องค์กรก็ตระหนักว่า ในระยะยาวจะเป็นภาระขององค์กร ดังนั้นจึงตัดบางตำแหน่งออกจากโครงสร้างองค์กร ด้วยการจ้างพนักงานทำงานส่วนตัวของผู้บริหารสำหรับพนักงานสูงอายุที่สนิทกับผู้บริหาร เช่น เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ทำสวน หรือเป็นแม่บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้เริ่มมีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการวางแผนชีวิตของพนักงานมากขึ้น ด้วยการมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง 1 ตำแหน่ง

และในมุมมองของพนักงาน หลายคนมีความสุขในการทำงานที่บริษัท ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าองค์กรจะไม่จ้างแล้ว หรือจนกว่าเกษียณอายุ ทั้งนี้พนักงานสูงอายุส่วนใหญ่มีมุมมองเหมือนกันว่า จะเลิกทำงานก็ต่อเมื่อผู้บริหารเลิกจ้างและเห็นว่าตนเองไม่สามารถทำงานได้แล้ว ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาด้านสุขภาพของตนเองดังนั้นพนักงานจึงพยายามดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น

แม้ว่าการจ้างพนักงานผู้สูงอายุจะเป็นภาระของบริษัท แต่ผู้บริหารยินดีที่จะดำเนินการเพราะ พนักงานกลุ่มนี้ทำงานกับองค์กรมานาน ซึ่งผู้บริหารเห็นว่าพนักงานบุกเบิกและเติบโตมาพร้อมกับองค์กร ประกอบกับวัฒนธรรมองค์กรที่ดูแลกันแบบคนในครอบครัว นอกจากนี้บริษัทเชื่อว่า การที่จ้างงานพนักงานสูงอายุทำให้พนักงานชื่นชม และมีความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น นั้นหมายถึงส่งผลต่อการรักษาพนักงาน รวมถึงทำให้พนักงานรักและทุ่มเท ให้กับองค์กรมากขึ้น