ความอร่อยที่แฝงประสงค์ร้ายจากไขมันทรานส์

ขนมเค้ก คุกกี้ โดนัท ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ขนมขบเคี้ยวต่างๆ เหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอาหารที่มีหน้าตาน่ารับประทาน และมีรสชาติอร่อยถูกปากใครหลายๆ คน

วันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความอร่อยที่หลายคนอาจจะเคยคุ้นหูมาบ้าง นั่นก็คือ “ไขมันทรานส์”

ไขมันทรานส์เกิดจากการแปรรูปไขมัน เพื่อทำให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับไขมันจากสัตว์ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตของผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อทดแทนการใช้เนยจากนมวัวซึ่งมีราคาสูงกว่า

ผลเสียของไขมันทรานส์ต่อสุขภาพของเราคือ ทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นของแสลงเหลือเกินกับผู้สูงอายุ

หลายประเทศได้มีความตระหนักในสุขภาพของประชาชนมากขึ้นโดยมีการควบคุมการใช้ไขมันทรานส์แล้ว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา แคนนาดา สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยมีการออกกฎหมายให้ระบุปริมาณกรดไขมันทรานส์ไว้บนฉลากโภชนาการ

ส่วนในประเทศไทยเพิ่งมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ว่า “ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย” โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ณ วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนคนไทยอย่างเรา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภททอด ปิ้งย่าง และขนมขบเคี้ยวต่างๆ ที่สำคัญควรเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างการ และหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

อ้างอิงจาก pharmacy.mahidol.ac.th