บทเรียนหนอนในปากชายชรา เปิดคู่มือดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุติดบ้าน-ติดเตียง
“พบหนอนแมลงวันในปากผู้ป่วยติดเตียง วัย 70 ปี” เป็นข่าวที่สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้ที่ได้รับข่าวสารอย่างมาก
ทันตแพทย์คาดว่าสาเหตุมาจากที่คนไข้ป่วยติดเตียงพักรักษาตัวที่บ้าน อีกทั้งยังมีอายุมาก ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และแมลงวันได้วางไข่บริเวณใกล้ปาก ไข่แมลงวันตกลงไปในช่องระหว่างฟันผุ ก่อนที่จะกลายเป็นหนอนในที่สุด
เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ในการดูแลความสะอาด และสุขภาพปากและฟันให้กับผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง และ ผู้สูงวัย โดย “คู่มือการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง” โดยกรมอนามัย ได้แนะนำวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับผู้สูงวัยใน 4 กลุ่มดังนี้
1.กลุ่มที่เคลื่อนไหวได้บ้าง ไม่มีภาวะสับสน
ควรให้ผู้สูงอายุแปรงฟันเอง เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถ มีอิสระในการดูแลสุขภาพปากได้ด้วยตนเอง
ควรเลือกแปรงสีฟันขนนุ่ม ปรับแรงสีฟันให้มีด้ามจับเหมาะมือ เพื่อช่วยให้สามารถแปรงฟันด้วยตนเองได้สะดวก โดยสามารถดัดแปลงแปรงสีฟันเพื่อให้จับได้ถนัดมือ เช่น เพิ่มขนาดด้ามแปรงให้ใหญ่ขึ้น โดยหุ้มด้ามแปรงด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ฟองน้ำ หลอดด้าย ด้ามจับรถจักรยาน หรือแผ่นยางรัดผ้าขนหนู รวมถึงการดัดแปรงให้โค้งเพื่อยึดจับถนัดมือ หรือใช้แผ่นยางขนาดใหญ่ ช่วยรัดยึดด้ามแปรงให้ติดแน่นกับมือ หรือเพิ่มความยาวของด้ามแปรงด้วยตะเกียบ สำหรับผู้สูงวัยที่ข้อศอกงอพับไม่ปกติสามารถนำแปรงฟันเข้าปาก และแปรงฟันด้วยตนเองได้
2.กลุ่มที่เคลื่อนไหวได้บ้าง มีภาวะสับสน
กลุ่มนี้มักลืมวิธีแปรงฟัน ผู้ดูแลควรแปรงฟันให้ สิ่งสำคัญคือ ผู้ดูแลต้องบอกผู้สูงวัยทุกครั้งว่ากำลังจะทำอะไร ทำในขั้นตอนไหน เช่น กำลังสอดแปรงเข้าไปในปาก กำลังแปรงฟัน หรืออื่นๆแล้วจึงลงมือทำ โดยในการแปรงฟัน อาจมีสิ่งของที่ผู้สูงวัยชอบ เช่น ตุ๊กตา หมอน หรือ อื่นๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ยินยอมให้ผู้ดูแลแปรงฟันได้
3.กลุ่มที่เคลื่อนไหวเองไม่ได้ ติดเตียง
ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และควรเป็นยาสีฟันที่ไม่มีฟอง โดยผู้ดูแลแปรงฟันให้ พร้อมไปกับช่วงทำกิจวัตรประจำวัน เช่น หลังกินข้าว หลังเช็ดตัว หลังเปลี่ยนผ้าอ้อม โดยขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์ ความยินยอมของผู้สูงอายุ
สำหรับอุปกรณ์การแปรงฟันให้กับผู้สูงวัยในกลุ่มนี้จะต้องเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์หลายอย่าง เช่น แปรงสีฟัน 1-2 อัน ยาสีฟัน น้ำสะอาด แก้วน้ำ ผ้าขนหนูผืนเล็ก ชามรูปไตหรือกระโถน และลูกยางสำหรับดูดน้ำ
ขั้นตอนการแปรงฟัน เริ่มจากผู้ดูแลจะต้องบอกผู้สูงอายุก่อนว่ากำลังจะทำอะไร ก่อนลงมือปฏิบัติ จากนั้นปรับตำแหน่งผู้สูงอายุให้พร้อมสำหรับการแปรงฟัน
“ท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน” อาจใช้หมอนหนุนบนเตียง หรือ ไขเตียงให้ศีรษะสูงจากพื้นเตียงประมาณ 1 ฟุต จะเป็นท่าที่ปลอดภัย และไม่เกิดอาการสำลัก หรือ ในคนที่ศีรษะไม่นิ่งควรให้ผู้สูงอายุนั่ง และผู้ดูแลอยู่ด้านหลัง ใช้แขนข้างหนึ่งโอบศีรษะ และอีกข้างหนึ่งถือแปรงเข้าปาก
“ท่านอน” ให้เลื่อนตัวผู้สูงอายุชิดริมเตียงข้างที่ผู้ดูแลอยู่ จัดให้นอนตะแคง วางผ้ากันเปื้อนที่หน้าอก ป้องกันไม่ให้น้ำหกเลอะวางชามรูปไตด้านเว้าแนบกับแก้มผู้สูงอายุให้สนิท หรือถ้าไม่มี ให้ใช้ภาชนะอื่น แต่ต้องรองผ้าขนหนูกันเปื้อนบริเวณใต้คอ โดยตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการแปรงฟันของผู้ดูแลนั้น ควรอยู่ด้านข้าง หรือ อยู่ด้านหลัง หรือให้ผู้สูงวัยหนุนตัก
วิธีการแปรงฟัน หากผู้สูงอายุบ้วนน้ำไม่ได้ อ้าปากลำบาก กลืนลำบากนั้น ต้องจัดท่านอนให้ผู้สูงอายุนอนตะแคง เพื่อป้องกันการสำลัก บอกผู้สูงอายุให้รู้ตัวก่อนว่าจะแปรงฟัน จากนั้นใช้ผ้าก็อซชุบน้ำสะอาด พันนิ้วมือ กวาดเศษอาหารก้อนใหญ่ข้างกระพุ้งแก้มออก ก่อนที่จะแปรงฟันจากด้านนอกเข้าไป โดยใช้แปรงสีฟัน 2 อัน อีกด้ามหนึ่งแปรง อีกด้ามหนึ่งใช้ช่วยรั้งช่องปาก และใช้กดลิ้น ช่วยผู้สูงอายุให้อ้าปาก
ระหว่างแปรงฟันให้ใช้น้ำใส่กระบอกฉีดยา ค่อยๆฉีดทีละน้อยสลับกับใช้ลูกยางดูดน้ำในช่องปากออก แต่ถ้าผู้สูงอายุสำลักง่ายไม่ควรใช้น้ำ ให้ชุบแปรงให้ชื้นเป็นระยะ แล้วแปรงโดยไม่ใช้น้ำ หลังจากแปรงแล้วให้เช็ดปากให้แห้ง
แต่หากผู้สูงอายุไม่อ้าปาก วิธีการให้ใช้มือลูบแก้มทั้ง 2 ข้าง ใช้นิ้วลูบริมฝีปากให้รู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แล้วค่อยๆเอานิ้วล้วงไปข้างแก้ม และกดเหงือกด้านในสุดของฟันซี่สุดท้ายเพื่อให้อ้าปาก จากนั้นสอดด้ามแปรงขนาดใหญ่ หรือ ไม้ที่พันผ้าก็อซ เพื่อให้ผู้สูงอายุอ้าปากไว้เพื่อแปรงฟันต่อ
4.กลุ่มที่เคลื่อนไหวเองไม่ได้ เจ็บป่วยรุนแรง หรืออยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต
ผู้ดูแลต้องเช็คช่องปาก โดยใช้ปากคีบ คืบผ้าก็อซ สำลี เช็ดฟัน ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้มให้ทั่ว หรือ ใช้นิ้วพันผ้านุ่มชุบน้ำหมาด หลังการเช็ดตัวหรืออาบน้ำทุกครั้ง โดยใช้ไม้กดลิ้น เปิดช่องปากขณะทำความสะอาดภายในปาก เพราะขากรรไกรอาจจะปิดลงบนนิ้วได้
สำหรับผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอม สิ่งสำคัญ หากผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ห้ามใส่ฟันปลอมเด็ดขาด แต่หากรู้สึกตัวดี จะต้องถอดทำความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
นอกจากนั้นการตรวจสภาวะช่องปากผู้สูงอายุ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ โดยผู้แลควรที่จะตรวจสภาวะช่องปาก เมื่อพบว่าผู้สูงอายุพูดถึงปัญหาช่องปาก และรู้สึกว่ามีกลิ่นปาก พร้อมสังเกตถึงความผิดปกติอื่นๆ เช่น ฝ้าขาว แผล เนื้องอกเป็นก้อน มีเชื้อรา หรือไม่ ถ้าพบผิดปกติให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อรับการดูแลรักษาที่ถูกต้องต่อไป
การดูแลช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอจะทำให้ ผู้สูงอายุรู้สึกสบาย ช่วยให้อยากอาการ กลืนอาหารได้สะดวกขึ้น ป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นแผลในปาก ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวด การติดเชื้อในกระแสเลือด นอนไม่หลับ ซึมเศร้า และยังสามารถลดการเกิดปอดอักเสบจากการสำลักโดยเฉพาะผู้สูงอายุติดเตียงได้
ขอบคุณข้อมูลจากกรมอนามัย