มีกิจการดูแลผู้สูงอายุยื่นขอขึ้นทะเบียนตามกฎหมายใหม่ เพียง 100 จาก 3,000 แห่ง

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผย มีกิจการดูแลผู้สูงอายุ ยื่นขอขึ้นทะเบียนตามกฎหมายใหม่ เพียง 100 จาก 3,000 แห่งขีดเส้นตาย ต้องขออนุญาตก่อน 25 .. นี้ ขณะที่ผู้ให้บริการฯ ลงทะเบียนแค่หลักพันจากจำนวน 2.8 หมื่นทั่วประเทศ 

นับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม เป็นต้นมา สถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ไม่ว่าจะเป็นรายเก่า หรือ รายใหม่ จะต้องขออนุญาตเปิดกิจการ โดยขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตามกฎกระทรวงกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ..2559  ซึ่งมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค และเป็นการส่งเสริมให้สถานประกอบการมีคุณภาพมาตรฐาน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี 

แต่จนถึงปัจจุบันมีกิจการมายื่นขออนุญาตประกอบกิจการในระบบเพียง100 แห่งจากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ

 

โดยกิจการดูแลผู้สูงอายุ ที่มายื่นขออนุญาตฯแล้ว จำนวน 90 เปอร์เซ็นต์เป็นกิจการประเภทที่มีการดูแลและประคับประคองผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืน 

ขณะที่การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯนั้น พบว่ามียื่นขอขึ้นทะเบียนฯเข้ามาในระบบกว่า 1,000 ราย จากที่คาดว่าทั้งประเทศมีผู้ให้บริการฯ 28,000 รายเท่านั้น

สำหรับผู้ให้บริการในกิจการดูแลผู้สูงอายุฯนั้น หลักเกณฑ์ใหม่กำหนดว่าจะต้องจบหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชม. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1) กลุ่มที่จบและมีวุฒิบัตร/ประกาศนียบัตรหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุฯไม่น้อยกว่า 420 ชม.ก่อนที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยต้องรีบขอขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 หากพ้นกำหนดจากนี้ ต้องเทียบเคียงหรือไปสมัครเรียนหรืออบรมใหม่จากสถาบันที่ได้รับรองหลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น

 

2) ผู้ที่เริ่มเรียนหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชม. ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ และได้รับวุฒิหลังวันที่ 27 มกราคม 2564 ให้ยื่นขอขึ้นทะเบียนภายใน 6 มกราคม 2565 

และ3) กลุ่มสุดท้าย ผู้ที่เริ่มเรียนหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 420 ชม. หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะสามารถขึ้นทะเบียนได้ก็ต่อเมื่อเรียนจบจากสถาบันที่ได้รับรองหลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น โดยต้องขึ้นทะเบียนก่อนที่จะปฏิบัติงานด้วย

ขณะที่เจ้าของกิจการดูแลผู้สูงอายุฯนั้น หากเป็นรายเก่าที่เปิดกิจการก่อนที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ให้ยื่นขออนุญาตภายในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ส่วนรายใหม่ต้องมีใบอนุญาตก่อน จึงจะสามารถเปิดกิจการได้ 

ที่มา : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข